ไลโปโซม นวัตกรรมใหม่ที่อุตสาหกรรมเครื่องสำอางกำลังให้ความสำคัญในขณะนี้ โดยผลิตภัณฑ์ดูแลผิวต่าง ๆ ได้นำเสนอนวัตกรรมไลโปโซมเพื่อจัดการกับปัญหาผิวหลากหลายประการ และกำลังเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในไทย หลายแบรนด์ดังเลือกนำนวัตกรรมไลโปโซมเข้ามาผสมผสานประยุกต์ใช้ในเครื่องสำอางของตัวเอง เพื่อชูศักยภาพของเครื่องสำอางให้มีความโดดเด่น และคงประสิทธิภาพเหนือกว่า
โดยทั่วไปแล้วไลโปโซมถูกเลือกนำมาใช้กับเครื่องสำอางในกลุ่มชะลอวัยเนื่องจากสามารถนำสารสำคัญเข้าสู่ผิวหนังได้มากขึ้น มีความอุ้มน้ำ และสารสำคัญสามารถออกฤทธิ์ได้นานขึ้น ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้ไลโปโซมถูกหยิบจับมาเป็นส่วนหนึ่งในอุตสาหกรรมสกินแคร์
ประเภทของไลโปโซม
แบ่งตามขนาดอนุภาค
- Small Unilamellar Vesicles (SUV) มีขนาด 20 - 50 นาโนเมตร มีขนาดเล็ก สามารถซึมผ่านผ่านผิวได้ดีที่สุด
- Large Unilamellar Vesicles (LUV) มีขนาดมากกว่า 100 นาโนเมตร มีขนาดใหญ่สามารถบรรจุสารสำคัญได้มากกว่า โดยขนาดไม่ถือว่าใหญ่ไปเมื่อเทียบกับโครงสร้างผิว จึงเหมาะที่สุดในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง
แบ่งตาม Lipid Bilayer
- Multi Lamellar Vesicles (MLV) มีผนังมากกว่า 2 ชั้น เหมาะสำหรับสารที่เป็นกลุ่มน้ำมัน ไขมันที่ไม่ละลายน้ำ
- Unilamellar vesicles (ULV) มีผนัง Lipid bilayer เพียงชั้นเดียว Unilamellar Vesicles (ULV) แบ่งออกเป็น
- Medium Unilamellar Vesicles (MUV)
- Small Unilamellar Vesicles (SUV)
- Giant Unilamellar Vesicles (GUV)
ทำไมถึงเลือกนวัตกรรมไลโปโซมในเครื่องสำอาง
นำส่งสารสำคัญให้ออกฤทธิ์ได้ดีขึ้น:
ไลโปโซมทำหน้าที่เป็นตัวพาที่มีประสิทธิภาพในส่วนผสมผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เช่น วิตามิน สารต้านอนุมูลอิสระ เปปไทด์ และสารสกัดจากพฤกษศาสตร์ ส่วนผสมเหล่านี้ถูกห่อหุ้มไว้ภายในโครงสร้างไลโปโซม ซึ่งช่วยปกป้องการเสื่อมสภาพและส่งตรงไปยังชั้นลึกของผิวหนัง ไลโปโซมช่วยเพิ่มการซึมลึกของสารออกฤทธิ์เข้าสู่ผิวหนัง ทำให้ผิวได้รับประสิทธิภาพเครื่องสำอางอย่างเต็มที่
การดูแลผิวที่ตรงเป้าหมาย:
ไลโปโซมมีส่วนช่วยในการปรับแต่งและกำหนดเป้าหมาย ช่วยให้ผู้กำหนดสูตรสามารถปรับแต่งผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเพื่อจัดการกับปัญหาผิวที่เฉพาะเจาะจงได้ ด้วยการรวมส่วนผสมออกฤทธิ์ไว้ในสูตรไลโปโซม ทำให้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวสามารถแก้ปัญหาด้านผิวต่างๆ เช่น อายุ ความชุ่มชื้น ผิวคล้ำ และการอักเสบของผิว ไลโปโซมสามารถนำพาให้ส่วนผสมไปยังชั้นผิวหรือประเภทเซลล์ที่เฉพาะเจาะจง เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีประสิทธิภาพสูงสุด
ความเสถียรและลดความเป็นพิษ:
ไลโปโซมให้ความเสถียรและช่วยปกป้องส่วนผสมที่สลายตัวได้ง่ายในสูตรเครื่องสำอาง ด้วยการห่อหุ้มส่วนผสมเหล่านี้ไว้ภายในชั้นไขมัน ไลโปโซมจะปกป้องส่วนผสมเหล่านี้จากการสัมผัสกับออกซิเจน แสง และปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมอื่นๆ ซึ่งช่วยรักษาประสิทธิภาพของส่วนผสมออกฤทธิ์และยืดอายุการเก็บของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง และช่วยลดความเป็นพิษจากการสัมผัสสารโดยตรง และลดการระคายเคืองและการแพ้ส่วนผสมต่างๆ ได้มากขึ้น
นวัตกรรมและความแตกต่างของผลิตภัณฑ์:
นวัตกรรมไลโปโซมช่วยให้บริษัทเครื่องสำอางสามารถคิดค้นและสร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์ของตนในตลาดที่มีการแข่งขันสูง การพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ดูแลผิวด้วยระบบนำพาแบบไลโปโซมสามารถสร้างคุณประโยชน์ที่เป็นเอกลักษณ์ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ช่วยดึงดูดผู้บริโภคที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูง
ความต้องการของผู้บริโภคสำหรับผลิตภัณฑ์ดูแลผิวขั้นสูง:
ด้วยผู้บริโภคมีความรู้ความเข้าในนวัตกรรมไลโปโซมเพิ่มขึ้น ผู้บริโภคจึงต้องการผลิตภัณฑ์ดูแลผิวอย่างล้ำลึกถึงเซลล์ผิว นวัตกรรมไลโปโซมจึงได้รับความนิยมในหมู่ผู้ชื่นชอบผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ผู้บริโภคกำลังมองหาผลิตภัณฑ์ที่ให้การดูแลที่ตรงจุดมากขึ้น ส่วนผสมออกฤทธิ์อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และผลลัพธ์ที่มองเห็นได้ชัดเจน นวัตกรรมไลโปโซมจึงตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ชาญฉลาด