กระบวนการเผาผลาญอาหาร และลิพิด

กระบวนการเผาผลาญอาหาร และลิพิด

กระบวนการเผาผลาญอาหาร คือ กระบวนการทางร่างกายที่ปฏิกิริยาทางเคมีในสิ่งมีชีวิตทำเพื่อรักษาชีวิตให้ดำรงอยู่ต่อไป กระบวนการเหล่านี้ ทำให้สิ่งมีชีวิตสามารถเจริญเติบโต แพร่พันธุ์ และรักษาองค์ประกอบต่างของร่างกาย รวมทั้งสามารถปรับตัวรับมือกับผลกระทบจากสิ่งแวดล้อมได้

โดยทั่วไปแล้ว กระบวนการเผาผลาญอาหารจะแบ่งออกเป็น 2 กระบวนการหลัก:

  • กระบวนการสลายตัว - สารอินทรีย์ที่มีความซับซ้อนจะแตกตัว สลายเป็นสารที่มีความซับซ้อนน้อยลง จากนั้นจะปลดปล่อยพลังงาน 
  • กระบวนการสังเคราะห์– สารที่มีความซับซ้อนน้อยจะเริ่มกระบวนการก่อตัวไปเป็นสารที่มีความซับซ้อนมากกว่า โดยกระบวนการนี้จำเป็นต้องใช้พลังงาน 

ลิพิดคือ ไขมันที่ถูกสังเคราะห์ในตับ หรือไขมันเข้าสู่ร่างกายผ่านทางอาหาร นอกจากหน้าที่ในการให้พลังงานแล้ว ไขมันยังเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของเยื่อหุ้มเซลล์ มีส่วนในการสังเคราะห์ฮอร์โมน การส่งกระแสประสาท และหน้าที่สำคัญอีกหลายๆ อย่างสำหรับร่างกาย ไขมันทุกชนิดจะไม่ชอบน้ำ และไขมันส่วนใหญ่จะไม่ละลายในเลือด ดังนั้นการเผาผลาญลิพิดจึงเป็นกระบวนกาเคมีฟิสิกที่ซับซ้อนสำหรับร่างกาย 

ความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับการเผาผลาญลิพิดจึ้งส่งผลกระทบต่อกระบวนการดูดซึม การเปลี่ยนแปลง และการเผาผลาญไขมันในร่างกายด้วย รวมทั้งส่งผลอย่างมากต่อสถานะของสิ่งมีชีวิตแบบองค์รวมและอาจเป็นสาเหตุให้เกิดผลกระทบที่รุนแรงตามมาได้

ปัจจัยที่เป็นสาเหตุของความผิดปกติในการเผาผลาญลิพิด ได้แก่:

  • การได้รับผลมาจากพันธุกรรม เพราะยีนเป็นปัจจัยในการสังเคราะห์คอเลสเตอรอลว่าจะผิดปกติหรือไม่ 
  • พฤติกรรมการนั่งนานๆ หรือไม่เคลื่อนไหว 
  • โรคเบาหวาน 
  • การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป 
  • ท่อน้ำดีอุดตัน
  • โรคไตเรื้อรัง 
  • ภาวะพร่องไทรอยด์ 
  • การใช้ผลิตภัณฑ์ยาร่วมกัน

ความผิดปกติในการเผาผลาญลิพิดเป็นสาเหตุหลักอย่างหนึ่งของโรคหลอดเลือด โรคอ้วน ความเสื่อมของระบบประสาท และการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ และยังเป็นสาเหตุของอาการต่อไปนี้:

  • การขาดเอนไซม์ไลเปสของตับอ่อน 
  • การผลิตน้ำดีบกพร่อง 
  • การทำงานต่อมไทรอยด  ระบบสืบพันธุ์ และต่อมใต้สมองหยุดชะงัก 
  • การทำงานของไฮโปทาลามัสล้มเหลว  
  • การทำงานของระบบประสาทแย่ลง 
  • ร่างกายมีกรดมากเกินไปซึ่งเกิดจากการสร้างคีโตนที่เพิ่มขึ้น 
  • ความผิดปกติของเยื่อบุผิวในลำไส้ 
  • การได้รับรังสีไอออไนซ์ 
  • โรคต่างๆ เช่น ดีซ่าน ภาวะอักเสบของตับอ่อน โรควิปเปิ้ล ตับทำงานผิดปกติ และอื่นๆ 

เป็นที่แน่นอนว่าทุกคนต้องเคยเจอปัญหาสุขภาพอย่างน้อยสักครั้งในชีวิต  ซึ่งไม่เพียงแต่จะต้องทำการขจัดโรค แต่ยังต้องทำการป้องกันเรื่องการกำเริบของโรคและความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นอีกด้วย เป็นที่ทราบกันดีว่า ผลิตภัณฑ์บางอย่างที่ใช้นั้นส่งผลต่อการการเผาผลาญลิพิดและวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดก็คือการจัดการที่สาเหตุของโรคโดยตรงนั่นเอง

จากข้อมูลในการวิจัย เราได้พบว่า เคอร์คูมินเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งในการป้องกันไม่ให้เกิดการก่อตัวของกระบวนการที่จะสร้างปัญหาสุขภาพในร่างกาย 

เคอร์คูมิน นั้นคือสารเคอร์คูมินอยด์ที่สำคัญที่พบในขมิ้นชัน 

เคอร์คูมินเป็นสารประกอบตามธรรมชาติที่ได้รับการศึกษาและค้นคว้าอย่างกว้างขวาง ผลเสียอย่างหนึ่งของการมีไขมันในร่างกายเพิ่มขึ้น คือ การอักเสบเรื้อรังที่ไม่รุนแรง ซึ่งนำไปสู่ภาวะเมตาบอลิกซินโดรมหรือโรคอ้วนลงพุงรวมทั้งโรคอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง จากการศึกษาในห้องทดลองแสดงให้เห็นว่า เคอร์คูมินคือ สารเมตาโบไลต์หลักที่พบได้ในพลาสมา โดยมีผลต่อการลดดัชนีมวลกาย ระดับฮีโมโกลบิน กลูโคส และไตรกลีเซอไรด์ได้ ช่วยเร่งกระบวนการเผาผลาญในร่างกาย ปรับปรุงความไวของอินซูลิน ควบคุมการตายของเซลล์ไขมัน และยับยั้งเอนไซม์ที่มีหน้าที่พื้นฐานในกลไกของการเกิดโรคอ้วน 

ทั้งหมดนี้ทำให้เคอร์คูมินเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการป้องกัน หรือแก้ไขความผิดปกติของการเผาผลาญไขมันในร่างกาย และโรคต่างๆ ที่สืบเนื่องจากความผิดปกตินี้ 

นอกจากนั้นในสภาพแวดล้อมที่มีการควบคุมในห้องปฏิบัติการ เคอร์คูมินยังแสดงให้เห็นถึงคุณสมบัติทางเภสัชวิทยาอีกหลาย อย่างเช่น เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ต้านมะเร็ง ป้องกันปัญหาสุขภาพหัวใจ ป้องกันปัญหาสุขภาพตับ ต้านอาการซึมเศร้า เพิ่มภูมิคุ้มกัน ฯลฯ 

แต่สิ่งที่ค้นพบคุณประโยชน์ต่างๆ ของเคอร์คูมินยังคงไม่ได้รับการยอมรับมากนัก เพราะปริมาณสารชีวิภาพที่ต่ำของเคอร์คูมิน ซึ่งมีไม่เกินร้อยละ 0.1 โดยประมาณ ด้วยปริมาณที่ต่ำนี้ทำให้ สารนี้ไม่สามารถแสดงศักยภาพในการเยียวยาได้เมื่อได้รับในรูปของผงหรือสารสกัด

จะเห็นได้ว่าการค้นคว้าเกี่ยวกับเคอร์คูมินในห้องปฏิบัติการได้ก่อให้เกิดความสนใจในเคอร์คูมินเพิ่มขึ้นมากทั่วโลก โดยจะเห็นได้ชัดในอุตสาหกรรมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ดูง่ายๆ ตามเว็บไซต์ออนไลน์เราสามารถพบได้ทั่วไปเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดจากขมิ้นเป็นส่วนผสมไม่มากก็น้อย รวมทั้งข้อมูลเกี่ยวกับสรรพคุณของสารเคอร์คูมินที่มีต่อโรคต่าง ๆ เป็นจำนวนมากที่ได้ผ่านการทดสอบในห้องปฏิบัติการ แต่ว่าถ้าเป็นเพียงขมิ้นชันทั่วไปเราแทบจะไม่พบประโยชน์อะไรเลย เมื่อทำการตรวจสอบในห้องทดลอง ในขณะที่ที่เคอร์คูมินได้แสดงให้เห็นจากการวิจัยในห้องทดลอง การเพิ่มชีวปริมาณออกฤทธิ์ของเคอร์คูมินเริ่มได้รับความสนใจในการค้นคว้าศึกษาช่วงทศวรรษที่ผ่านมา มีการพัฒนาเทคโนโลยีมากมายเพื่อเพิ่มชีวปริมาณออกฤทธิ์ของเคอร์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย และเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพที่ได้รับการยอมรับคือ เทคโนโลยีไลโปโซม (Liposome)

เทคโนโลยีในการเพิ่มประสิทธิภาพของสารเคอร์คูมินด้วยการใช้เทคไลโปโซมนั้นให้ผลได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อร่างกายมนุษย์ และสัตว์ ทั้งนี้มีผลการยืนยันผ่านประสิทธิภาพที่เห็นได้จากการทดลองทางห้องปฏิบัติการนับพันครั้ง

Leave a comment

Please note, comments need to be approved before they are published.